จะเครียดทำไมให้ผิวเสีย

การทำหน้านิ่ว คิ้วขมวด อารมณ์ขุ่นมัวอยู่บ่อย ๆ จะทำให้ผิวหน้าแก่เกินวัย อีกทั้งต้องเผชิญกับมลภาวะและสภาพแวดล้อม ที่เป็นตัวการทำลายผิวให้ร่วงโรยอีกด้วย   สาเหตุของความเครียดที่ทำลายผิวของเรามีทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก

ปัจจัยภายใน

ช่วงที่คุณอารมณ์ตึงเครียด เจ็บป่วย หรือรู้สึกเหนื่อยหน่าย หลอดเลือดจะบีบรัดตัว ทำให้เลือดและออกซิเจนไหลไปเลี้ยงเซลผิวได้น้อย และนี่เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่าความเครียดมีผลต่อฮอร์โมนและเป็นสาเหตุของอาการอักเสบตามบริเวณต่าง ๆ ซึ่งไปชะลอการผลัดผิวใหม่ และทำให้ผิวอ่อนแอยากต่อการต่อต้านความเสื่อมโทรมของผิวตามธรรมชาติ

การออกกำลังกายและการพักผ่อน นับว่าเป็นวิธีที่ดี สำหรับการคลายเครียด ถ้าสามารถออกกำลังกายในช่วงบ่ายแก่ ๆ หรือช่วงหัวค่ำ จะช่วยให้เหนื่อยและหลับง่าย การอาบน้ำอุ่น ก็จะทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย อุณภูมิร่างกายลดลง ทำให้รู้สึกง่วงและอยากพักผ่อน การจุดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นอ่อน ๆ เช่น ลาเวนเดอร์ และคาร์โมมายด์ ในห้องนอน หรือใส่หมอน จะช่วยให้หลับสบายขึ้น

การรับประทานอาหารอย่างหลากหลาย จะช่วยให้ได้วิตามินและธาตุอาหารที่เพียงพอ โดยเฉพาะวิตามินซี และควรทาครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซี รวมทั้งอาหารอื่น ๆ ที่ช่วยเสริมสร้างผิวสวย เช่น วิตามินเอ ดี และบี กรดไขมัน จะช่วยต้านความเครียด ส่วนอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล ให้ลดการบริโภคลง หันมารับประทานปลา ผักใบเขียว และถั่วเหลือง

ปัจจัยภายนอก

แสงแดด อากาศร้อนจัด หรือหนาวจัด และมลภาวะล้วนมีผลต่อความเหี่ยวย่น โดยเป็นตัวการสำคัญถึง 90 เปอร์เซนต์ การสัมผัสแสงแดด ฝุ่นควันและมลภาวะต่าง ๆ จะทำให้เซลผิวหนังอ่อนแอลง เกิดริ้วรอย

ในหน้าหนาว ความชื้นในอากาศจะลดลง ผิวจะยิ่งอ่อนแอลง เพราะเสียน้ำไป มอยเจอร์ไรเซอร์ จึงเป็นสิ่งสำคัญ ช่วยทดแทนการสูญเสียน้ำ

การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธี ช่วยชะลอความเหี่ยวย่น การทำความสะอาดผิวด้วยน้ำร้อน ถือว่าเป็นสิ่งรุนแรง โฟม หรือสารชะล้างน้ำมันและแบคทีเรีย ที่เป็นประโยชน์ต่อผิวชั้นนอก ก็ถือว่าเป็นการทำลายผิวเช่นกัน ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีโฟม และอุดมไปด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ หรือครีมทำความสะอาด และล้างออกด้วยน้ำอุ่น

รู้จักผ่อนคลาย อย่างเช่นการทำสมาธิ จะช่วยลดความเครียดได้ โยคะ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยปลดปล่อยความตึงเครียด ปรับสภาพผิวให้มีชีวิตชีวา

ที่มาเนื้อหา : Nakhinlab